วันอังคารที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2558

เผยเคล็ดลับพิชิตบัตรทองของการบินไทย


Royal Orchid Plus


สำหรับคนที่เดินทางไปในหลายประเทศต่างๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ยุโรป ด้วยสายการบินไทยแต่ไปไม่บ่อยมาก อาจจะรู้สึกว่าการที่จะได้บัตร Royal Orchid Plus ของการบินไทยนั้นค่อนข้างจะยากและแพงเอาเรื่อง เรามาดูกันว่าทำยังไงถึงจะได้มันมาอย่างง่ายที่สุดและเร็วที่สุด

Royal Orchid Plus3

 
       ก่อนที่เราจะไปถึงเทคนิคการได้บัตร Royal Orchid Plus Gold ที่เร็วที่สุด เราควรมาทำความรู้จักกับระบบการสะสมไมล์ของการบินไทยกันก่อน ว่ามีรายละเอียดและมีสิทธิพิเศษกันบ้างอะไรบ้าง

“ทำความรู้จักกับ Royal Orchid Plus”


       การบินไทย ริเริ่มโปรแกรมสะสมไมล์ Royal Orchid Plus เป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2536 ครับ ในตอนนั้นยังไม่มีเครือข่ายพันธมิตร Star Alliance แต่การบินไทยก็สามารถรวบรวมสมาชิกได้มากถึง 2 แสนคนจาก 115 ประเทศภายในปีแรก จากนั้นการบินไทยก็ได้เป็นหนึ่งในสายการบินสมาชิกร่วมก่อตั้งเครือข่ายพันธมิตร Star Alliance ในปี พ.ศ. 2540 โดยปัจจุบันมีสมาชิก Royal Orchid Plus ทั่วโลกมากกว่า 2.5 ล้านคนแล้ว
 
star-alliance

 
       ปัจจุบัน สายการบินพาณิชย์ทั่วโลก มีเครือข่ายสายการบินพันธมิตรอยู่ 3 เครือข่ายครับ นั่นคือ Star Alliance (27 สายการบิน), SkyTeam (20 สายการบิน) และ Oneworld (15 สายการบิน) ซึ่ง Star Alliance เป็นเครือข่ายพันธมิตรสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบไปด้วยสายการบินต่างๆ ที่เป็นสมาชิก ตามนี้
 
united-airlines-star-alliance

 
  • Adria Airways (สโลเวเนีย)
  • Aegian Airlines (กรีซ)
  • Air Canada (แคนาดา)
  • Air China (จีน)
  • Air India (อินเดีย)
  • Air New Zealand (นิวซีแลนด์)
  • ANA – All Nippon Airways (ญี่ปุ่น)
  • Asiana Airlines (เกาหลีใต้)
  • Austrian Airlines (ออสเตรีย)
  • Avianca (โคลัมเบีย)
  • Brussels Airlines (เบลเยียม)
  • Copa Airlines (ปานามา)
  • Croatia Airlines (โครเอเชีย)
  • EgyptAir (อียิปต์)
  • Ethiopian Airlines (เอธิโอเปีย)
  • EVA Air (ไต้หวัน)
  • LOT Polish Airlines (โปแลนด์)
  • Lufthansa (เยอรมนี)
  • SAS – Scandinavian Airlines (เดนมาร์ก, นอรเวย์, สวีเดน)
  • Shenzhen Airlines (จีน)
  • Singapore Airlines (สิงคโปร์)
  • South African Airways (แอฟริกาใต้)
  • Swiss International Air Lines (สวิสเซอร์แลนด์)
  • TAP Portugal (โปรตุเกส)
  • Thai Airways International (ไทย)
  • Turkish Airlines (ตุรกี)
  • United Airlines (สหรัฐอเมริกา)

       สายการบินในเครือข่ายพันธมิตรเดียวกัน สามารถสะสมไมล์ร่วมกันได้ครับ เช่น หากคุณเป็นสมาชิกสะสมไมล์ของการบินไทย (Royal Orchid Plus) และมีการเดินทางด้วยสายการบิน Singapore Airlines ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิก Star Alliance เหมือนกัน ก็สามารถนำไมล์ที่บินจาก Singapore Airlines มาเข้าบัญชีสะสมไมล์ของการบินไทยได้ เป็นต้น
 
 

ไมล์เอกสิทธิ์ (Qualifying Miles)


       การสะสมไมล์เพื่อให้ได้บัตรทอง (หรือแม้แต่บัตรเงิน) ต้องเป็นไมล์ที่ได้จากการขึ้นเครื่องบินไปบินจริงๆ เท่านั้น หรือศัพท์ทางการคือคำว่าไมล์เอกสิทธิ์ (Qualifying Miles) ครับ ซึ่งไม่ใช่ตั๋วโดยสารทุกราคาจะได้รับไมล์เอกสิทธิ์นะ (ตั๋วลดราคา ตั๋วโปรโมชั่น ตั๋วรางวัล ส่วนมากจะไม่ได้รับไมล์เลย หรือได้รับเพียงบางส่วน ไม่เต็มระยะทางที่บินจริง) โดยปกติแล้ว ตั๋วเครื่องบินในชั้นประหยัด (Economy) จะได้ไมล์ 100% ของระยะทางที่บินจริง, ชั้นธุรกิจ (Royal Silk) จะได้ 125% และชั้นหนึ่ง (Royal First) จะได้ 150%

       ไมล์สะสมที่ได้จากบัตรเครดิต ไม่นับเป็นไมล์เอกสิทธิ์ (Qualifying Miles) ทุกกรณี เพราะอย่างที่บอกไปแล้ว ว่าไมล์เอกสิทธิ์คือไมล์ที่ได้จากการขึ้นเครื่องบินไปบินจริงๆ เท่านั้น

ประเภทของบัตร Royal Orchid Plus

 
Royal Orchid Plus card type

 
       การบินไทยแบ่งบัตร Royal Orchid Plus ออกเป็น 4 ระดับด้วยกัน ดังนี้

       1. สมาชิก Royal Orchid Plus ทั่วไป
 
Royal Orchid Plus-Entry Level Status

 
       บุคคลทั่วไป จะเคยบินหรือไม่เคยบินกับการบินไทยเลยก็ได้ สามารถสมัครเพื่อได้เลขสมาชิก Royal Orchid Plus ต่อไปเวลาบินกับการบินไทย หรือสายการบินอื่นๆ ในกลุ่ม Star Alliance ก็แจ้งเลขสมาชิกเพื่อสะสมไมล์ได้

       2. สมาชิก Royal Orchid Plus Sliver
 
Silver-Royal Orchid Plus

 
       ต้องสะสมไมล์เอกสิทธิ์ (Qualifying Miles) ที่ได้รับจากการบินไทย หรือสายการบินอื่นในกลุ่ม Star Alliance ให้ได้ 10,000 ไมล์ภายใน 12 เดือน หรือ 15,000 ไมล์ภายใน 24 เดือน บัตรนี้มีสิทธิ์เทียบเท่า Silver Status ของ Star Alliance และมีอายุบัตร 2 ปี

       สิทธิพิเศษของบัตร Royal Orchid Plus Sliver

  • สิทธิ์ในการเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าอีก 10kg บนเที่ยวบินของการบินไทย
  • สิทธิ์ในการได้กระเป๋าก่อนผู้โดยสารอื่นๆ บนเที่ยวบินของการบินไทย
  • สิทธิ์ในการเข้าชื่อรอ (waitlisting และ airport standby) ในกรณีเที่ยวบินของการบินไทยและ Star Alliance ที่ต้องการจะเดินทางถูกจองจนเต็ม
  • โบนัส 3,000 ไมล์ เมื่อได้รับบัตรเงิน และทุกครั้งที่ได้รับการต่ออายุบัตรเงิน

       3. สมาชิก Royal Orchid Plus Gold
 
Gold-Royal Orchid Plus

 
       ต้องสะสมไมล์เอกสิทธิ์ (Qualifying Miles) ที่ได้รับจากการบินไทย หรือสายการบินอื่นในกลุ่ม Star Alliance ให้ได้ 50,000 ไมล์ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 80,000 ไมล์ในระยะเวลา 24 เดือน หรืออีกวิธีคือบินในเที่ยวบินระหว่างประเทศของการบินไทย ให้ได้ครบ 40 เที่ยวใน 1 ปี (โดยอาจจะเป็นเที่ยวบินใกล้ๆ รวมแล้วได้ไมล์ไม่ครบ 50,000 ไมล์ก็ได้) บัตรนี้มีสิทธิ์เทียบเท่า Gold Status ของ Star Alliance และมีอายุบัตร 2 ปี

       สิทธิพิเศษของบัตร Royal Orchid Plus Gold

  • สิทธิ์ในการเพิ่มน้ำหนักกระเป๋าอีก 20kg หรือกระเป๋าเพิ่มอีก 1 ใบ (ขึ้นอยู่กับเที่ยวบินนั้นๆ ว่าใช้เกณฑ์น้ำหนัก หรือจำนวนกระเป๋า) บนเที่ยวบินของการบินไทย และ สายการบินอื่นๆ ในกลุ่ม Star Alliance
  • สิทธิ์ในการได้กระเป๋าก่อนผู้โดยสารอื่นๆ บนเที่ยวบินของการบินไทย และ สายการบินในกลุ่ม Star Alliance
  • สิทธิ์ในการขึ้นเครื่องก่อนผู้โดยสารคนอื่นๆ (Priority Boarding)
  • มีเคาน์เตอร์เช็กอินแยกต่างหากที่ทุกสนามบินใหญ่ทั่วโลก ไม่ต้องต่อคิวนาน
  • สิทธิ์ในการเข้าชื่อรอ (waitlisting และ airport standby) ในกรณีเที่ยวบินที่ต้องการจะเดินทางถูกจองจนเต็ม
  • การันตี มีที่นั่งชั้นประหยัด (Economy) ในเที่ยวบินของการบินไทยที่เราจะเดินทางอย่างแน่นอน หากซื้อตั๋วไม่ต่ำกว่า 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง
  • สิทธิ์ในการใช้ห้องรับรอง Royal Silk Class (Airport Lounge) ของการบินไทย และห้องรับรองของ Star Alliance Gold ของสายการบินอื่นๆ ในทุกสนามบินทั่วโลก กินฟรี ดื่มฟรี เน็ตฟรี หากเดินทางด้วยสายการบินในกลุ่ม Star Alliance และสามารถพาเพื่อนเข้าได้ด้วยอีก 1 คน (เพื่อนต้องเดินทางด้วย Star Alliance คนละไฟลต์ก็ได้ แต่ต้องเดินทางวันเดียวกับเรา)
  • สิทธิ์ในการอัพเกรดที่นั่งไปชั้นโดยสารที่สูงขึ้น 1 ชั้นได้ฟรี (Economy ขึ้นไป Royal Silk, หรือ Royal Silk ขึ้นไป Royal First) จำนวน 1 ครั้งบนเที่ยวบินไป-กลับ ต่อช่วงอายุการเป็นสมาชิกบัตรทอง (Gold Upgrade – GUP) และจะได้สิทธิ์ซ้ำอีกหนึ่งครั้ง หากสามารถสะสมได้ครบ 50,000 ไมล์ใน 1 ปีที่เป็นสมาชิก (ได้สูงสุดเพียง 2 ครั้งต่อการเป็นอายุ 2 ปี) หลายคนเรียกการได้สิทธิ์ซ้ำนี้ว่าเป็น Double Gold
  • สิทธิ์ในการแลกไมล์ตั๋วโดยสารไป-กลับของการบินไทยในอัตรา 50% จำนวนหนึ่งครั้งต่อปี (สิทธิ์ Gold Award แต่หลายคนนิยมเรียกสิทธิ์นี้ว่า Gold Birthday เพราะตอนแรกเริ่ม การบินไทยจะให้สิทธิ์นี้ในวันเกิดของสมาชิกบัตรทอง)
  • โบนัส 5,000 ไมล์ เมื่อได้รับบัตรทอง และทุกครั้งที่ได้รับการต่ออายุบัตรทอง

       จะเห็นว่าสิทธิพิเศษของบัตร Royal Orchid Plus Gold นี่มีมากมาย ทำให้หลายคนอยากจะได้มาครอบครองสักใบ เพราะจะทำให้การเดินทางสะดวกสบายขึ้นอย่างมาก ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาดูกันว่าทำยังไงถึงจะได้อย่างเร็วที่สุด

       3. สมาชิก Royal Orchid Plus Platinum
 
Platinum_Card_Royal_orchid_plus

 
       บัตรระดับสูงสุดของการบินไทย ต้องบินในชั้นธุรกิจ (Royal Silk Class) หรือชั้นหนึ่ง (Royal First Class) ของการบินไทยเท่านั้น (บิน Economy ไม่นับ และ บินสายการบินอื่นๆ ในกลุ่ม Star Alliance ก็ไม่นับเหมือนกัน) ให้ได้ 80,000 ไมล์เอกสิทธิ์ (Qualifying Miles) ภายใน 12 เดือน ติดกัน 2 รอบ ถือว่าเป็นบัตรที่ได้ยากมาก และแพงมากๆกว่าจะได้ และเป็นบัตรที่ถือว่าเป็นลูกค้าชั้นดที่ีสุด ของการบินไทย

       สิทธิพิเศษของบัตร Royal Orchid Plus Platinum (ที่เหนือกว่าบัตรRoyal Orchid Plus Gold)

  • ได้ทุกสิทธิพิเศษของบัตร Royal Orchid Plus Gold ด้านบน
  • ไมล์สะสมที่ได้รับตลอดอายุการเป็นสมาชิก Royal Orchid Plus Platinum จะไม่มีวันหมดอายุ
  • ไม่จำกัดจำนวนสิทธิ์ในการอัพเกรดชั้นที่นั่ง หากเดินทางได้ครบ 50,000 ไมล์ตลอดการเป็นสมาชิกบัตร (บัตรทองจำกัดเพียง 2 ครั้งต่อ 2 ปี) เช่นเดินทาง 150,000 ไมล์ใน 1 ปี ก็ได้สิทธิ์อัพเกรดฟรีเลย 3 ครั้งในปีนั้น (Platinum Upgrade – PUP)
  • สิทธิ์ Gold Award แลกตั๋วโดยสารด้วยไมล์อัตรา 50% เพิ่มเป็นสองครั้ง
  • เคาน์เตอร์เช็กอิกพิเศษ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสามารถเช็กอินที่เคาน์เตอร์ Royal First Class ได้ในสนามบินอื่นๆ ทั่วโลก แม้ว่าจะไม่ได้โดยสารในชั้น Royal First Class
  • สิทธิ์ในการใช้ห้องรับรอง Royal First Class ในสนามบินทั่วโลก พร้อมพาเพื่อนเข้าได้อีก 1 คน

       นอกจากนี้จะยังมีบริการพิเศษอื่นๆ ที่ไม่ได้พูดถึงไว้เป็นลายลักษณ์อักษร เช่นเบอร์โทรศัพท์ติดต่อคอลเซนเตอร์แยกต่างหาก, สิทธิ์ในการได้ที่นั่งอย่างแน่นอนในเที่ยวบินที่จะเดินทาง, หรือสิทธิ์ในการถูกเลือกไปอัพเกรดชั้นโดยสาร หากเที่ยวบินในชั้นที่จะเดินทางเต็ม เป็นต้น

การปั๊มไมล์เพื่อพิชิตบัตร Royal Orchid Plus Gold


       วิธีปกติของการได้บัตรทอง คือต้องบิน บิน แล้วก็บิน ครับ เอาให้ครบระยะทาง 50,000 ไมล์ หรือให้ได้ 50,000 ไมล์เอกสิทธิ์ (หากบินด้วย Business Class หรือ First Class ก็จะได้เร็วขึ้น เพราะบินที ได้ไมล์ 125% หรือ 150% เลย) ด้วยความที่การบินไทยนับจากไมล์เอกสิทธิ์เท่านั้น ยังไงก็ต้องบินจริงเพื่อใช้ในการนับแต้ม
 
Royal Orchid Plus4

 

ระยะทาง 50,000 ไมล์ ไกลขนาดไหน ?


       ก็ให้เปรียบเทียบว่า ถ้าเป็นโตเกียว ก็จะได้ไมล์เที่ยวละ 2,869 ไมล์ (หรือ 5,738 ไมล์สำหรับการเดินทางไป-กลับ) นั่นคือประมาณว่า ต้องบินระยะทางไป-กลับญี่ปุ่น 9 รอบใน 1 ปี (ถ้าเป็น Business Class ก็ 7 รอบ) ถึงจะได้บัตรทองครับ หรือถ้าเป็นอเมริกา นับถึงลอสแองเจลิส (LAX) จะได้ไมล์สะสมเที่ยวละ 8,256 ไมล์ ต้องไปกลับอเมริกาประมาณ 3 รอบใน 1 ปี ส่วนยุโรป ก็ราวๆ ไปกลับ 4 รอบใน 1 ปีครับ นั่งคำนวนดูดีๆ หลายคนอาจจะถอดใจ ไม่เอาแล้วบัตรทอง
 

เราควรเลือกประเภทตั๋วอย่างไร ???? ให้ถูกต้อง

 
       ตั๋วเครื่องบินของทุกสายการบิน จะมีประเภทตั๋วที่ยิบย่อยไปกว่า Economy, Business, First อีกครับ เช่น จะมีตั๋วประเภท 1 เดือน, 3 เดือน, 6 เดือน, 1 ปี หรือตั๋วโปรโมชั่นที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงวันเดินทางได้, เปลี่ยนได้แบบมีค่าธรรมเนียม ฯลฯ ซึ่งตั๋วแต่ละประเภท อาจจะนำมาสะสมไมล์ได้ไม่เท่ากัน บางประเภทสะสมไม่ได้เลย บางประเภทสะสมได้ 25% หรือ 50% ของระยะทางที่บินจริง เป็นต้น ดังนั้น จึงจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ถ้าเราไปประหยัดเงินค่าตั๋วเครื่องบินเพียงไม่กี่ร้อยบาท หรืออาจจะ 1-2 พันบาท เพื่อซื้อตั๋วราคาถูก แต่พลาดสิทธิ์ที่จะสะสมไมล์ของเที่ยวบินนั้นๆ ซึ่งอาจจะมากเป็นหมื่นไมล์หากเดินทางในเที่ยวบินไกลๆ
 
thai airway

 
       วิธีการตรวจสอบว่าตั๋วโดยสารของเราสะสมไมล์ได้หรือไม่ จริงๆ แล้วมีเงื่อนไขบอกในหน้าเว็บตอนที่เราซื้อตั๋วแต่ละประเภทครับ (ถ้าใครเคยกดซื้อตั๋วหน้าเว็บเอง จะสังเกตว่า ตั๋ว Economy ด้วยกันก็มีหลายราคา นั่นแหละครับ แต่ละราคาเป็นตั๋วคนละแบบกัน มีความยืดหยุ่นต่างกัน และแน่นอนว่าตั๋วถูกก็อาจสะสมไมล์ได้ไม่เต็ม 100%) หรือในตั๋วโดยสารที่เป็นกระดาษ ก็จะมีบอกคลาสของตั๋วไว้หลังเลขเที่ยวบินเหมือนกัน ลองสังเกตดูครับ ว่าตั๋วของเราเป็นตั๋วคลาสอะไร หากไม่แน่ใจก็โทรสอบถามคอลเซนเตอร์ก็ได้ ว่าตั๋วของเราสะสมไมล์ได้หรือไม่ และสะสมได้กี่ %
 
fare-type-tg-for-rop

 
       เที่ยวบินการบินไทย ตั๋วประเภทที่สะสมไมล์ได้ คือ

  • เที่ยวบินในประเทศ ตั๋วโดยสารคลาส Y / B / M / Q / S / T / U / H / G / V / W สะสมไมล์ได้ 100% (และ 125% สำหรับ C / D / J) หรืออย่างน้อย 500 ไมล์
  • เที่ยวบินระหว่างประเทศ ตั๋วโดยสารคลาส U / Y / B / M / Q / S / T / H / K / Z สะสมไมล์ได้ 100%, คลาส C / D / J สะสมได้ 125% และ A / F / P สะสมได้ 150%ุ
  • เที่ยวบินระหว่างประเทศ คลาส G สะสมได้ 50%
  • เที่ยวบินระหว่างประเทศ คลาส V / W สะสมไมล์ได้ 25%

       ส่วนในกรณีของสายการบินอื่นในกลุ่มพันธมิตร Star Alliance เวลาเราซื้อตั๋วก็จะมีคลาสบอกเช่นกัน โดยรหัสคลาสอาจจะแตกต่างจากของการบินไทย และบางคลาสก็ไม่สามารถเอามาสะสมไมล์เข้าบัญชีของการบินไทยได้เต็ม 100% เช่นกัน ซึ่งวิธีตรวจสอบคือให้ดูจากเงื่อนไขตอนเราซื้อตั๋วของสายการบินนั้นๆ ว่าตั๋วของเราเป็นรหัสคลาสอะไร และให้เอารหัสคลาสมาเช็คกับเว็บของการบินไทย ก็จะมีบอกว่าตั๋วคลาสไหนของสายการบินไหน สามารถใช้ในการสะสมไมล์ได้บ้าง
 
lh-booking

 
       ยกตัวอย่างเช่น เที่ยวบินกรุงเทพ-แฟรงก์เฟิร์ต ของสายการบิน Lufthansa ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิก Star Alliance เหมือนกัน ตอนที่จะกดซื้อตั๋ว จะมีวงเล็บคลาสของตั๋วโดยสารอยู่ครับ ขาไปเป็น Economy (M) ส่วนขากลับเป็น Economy (W) มาเราเอาคลาสมาดูในตารางของเว็บการบินไทย จะเห็นว่า ขากลับ คลาส W สะสมไมล์ได้ 50% เท่านั้น ส่วนคลาส M ไม่มีระบุเงื่อนไขไว้ แปลว่าสามารถสะสมไมล์ได้ 100% ตามระเบียบของ Economy ทั่วไป เป็นต้น

       รหัสคลาสโดยสารบางคลาสของบางสายการบิน ราคาต่างกันน้อยมาก แต่มีผลกับการสะสมไมล์เข้าบัญชีของการบินไทยมาก ถ้าเช็คดีๆ แล้ว เราก็จะเห็นว่าตั๋วที่คุ้มที่สุดอาจจะไม่ใช่ตั๋วที่มีราคาถูกที่สุดก็ได้
 

การบัตรเครดิตก็ช่วยท่านได้ !!!!

 
       ถึงแม้ว่าการสะสมไมล์ให้ได้บัตรทอง จะนับจากไมล์ที่ได้บินจริงๆ เท่านั้น ยอดใช้จ่ายจากบัตรเครดิตไม่สามารถเอามานับเป็นไมล์สะสมเพื่อให้ได้บัตรทอง แต่ก็มีบัตรเครดิตอยู่ 3 ใบครับ ที่มีโปรโมชั่นช่วยให้ได้บัตรRoyal Orchid Plus Gold เร็วขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องบินให้ถึง 50,000 ไมล์!

       บัตรเครดิตแพลทินัม การบินไทย อเมริกัน เอ็กซ์เพรส
 
amex-rop

 
       บัตรใบนี้เป็นบัตรเครดิตของ AMEX ที่ร่วมกับการบินไทย เหมาะสำหรับคนที่เดินทางด้วยการบินไทยบ่อยๆ ครับ นอกจากจะโอนยอดใช้จ่ายเป็นไมล์ได้ถูกแล้ว ยังมีพวกโปรโมชั่นได้ไมล์ 2 เท่า, แลกตั๋วเครื่องบินใช้ไมล์ครึ่งเดียว และยังมีทีเด็ดสำหรับคนที่อยากขยับเป็น Royal Orchid Plus Gold ด้วยโปรโมชั่น 1 ครั้งหลังได้รับบัตร คือ เดินทางด้วยการบินไทยในชั้น Royal Silk หรือ Royal First ภายใน 1 ปีแรกที่ได้รับบัตรเครดิต ให้ได้เพียง 25,000 ไมล์ครับ (น้อยลงกว่าปกติครึ่งนึงเลย) ก็จะได้บัตรRoyal Orchid Plus Gold ทันที

       บัตรใบนี้มีค่าธรรมเนียมรายปี 4,280 บาท

       บัตรเครดิตไทยพาณิชย์ SCB Private Banking
 
SCB Private Banking

 
       บัตรเครดิตระดับสูงสุดของไทยพาณิชย์ ให้สิทธิ์เลื่อนขั้นเป็น Royal Orchid Plus Gold ได้เช่นกัน แต่ว่ามีเงื่อนไขคือต้องเดินทางด้วยการบินไทยในชั้นหนึ่ง (Royal First) ในเที่ยวบินข้ามทวีปไปกลับ จำนวน 2 ครั้งใน 1 ปีแรก ก็จะได้รับบัตรทอง ROP ไปเลย แบบชิลๆ ไม่ต้องมานั่งนับไมล์ว่าเดินทางไปกี่ไมล์แล้ว

       บัตรใบนี้สำหรับลูกค้าไทยพาณิชย์ที่มีเงินลงทุนกับธนาคารมากกว่า 50 ล้านบาทจ้า ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และมีสิทธิประโยชน์อื่นๆ อีกเพียบ (มีบัตรเครดิตใบนี้ก็คงไม่อยากได้แล้วมั้ง บัตรทองเนี่ย)

       บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ รอยัล ออร์คิด พลัส พรีเฟอร์
 
citibank-rop-preferred

 
       บัตรเครดิตซิตี้แบงก์ที่ทำออกมาร่วมกับการบินไทย ให้สิทธิ์ได้บัตร Royal Orchid Plus Gold เร็วขึ้นเช่นกัน โดยมีเงื่อนไขคือ

  • ใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 1 ล้านบาท ภายใน 1 รอบปีสมาชิกบัตรฯ + สะสมไมล์ 22,000 ไมล์จากการบินกับการบินไทย ในระยะเวลาเดียวกัน หรือ
  • ใช้จ่ายผ่านบัตรฯ 1 ล้านบาท ภายใน 1 รอบปีสมาชิกบัตรฯ + เดินทางระหว่างประเทศโดยการบินไทย 15 เที่ยวบินกับการบินไทย ในระยะเวลาเดียวกัน

       อันนี้เงื่อนไขดูเข้าท่าครับ ไม่มาบังคับให้บินชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง แถมบินน้อยกว่าระบบปกติเกินกว่าครึ่ง แต่ก็จะมีเงื่อนไขเรื่องของการใช้จ่ายผ่านบัตรให้ครบ 1 ล้านบาทใน 1 ปีแรก และบัตรใบนี้มีค่าธรรมเนียมรายปี 10,700 บาท

       โดยสรุปแล้ว เทคนิคที่จะบินให้ได้บัตร Royal Orchid Plus Gold เร็วที่สุด ก็ต้องขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละท่านด้วยส่วนนึง

  • เปรียบเทียบราคา กับสายการบินอื่นๆ ที่ไม่ใช่ Star Alliance เสมอ หากใกล้เคียงกัน เลือกบินกับ Star Alliance ให้มากที่สุด
  • นอกจากการบินไทยแล้ว สายการบิน Star Alliance ที่มีเที่ยวบินจากสุวรรณภูมิ คือ Air China (ไปปักกิ่ง), Air India (เดลี, มุมไบ), ANA (โตเกียวฮะเนะดะ, นาริตะ), Asiana (โซล), Austrian (เวียนนา), EgyptAir (ไคโร), Ethiopian (แอดดิสอาบาบา, กัวลาลัมเปอร์), EVA (อัมสเตอดัม, ลอนดอน, ไทเป, เวียนนา), Lufthansa (แฟรงก์เฟิร์ต), Shenzhen Airlines (ฝูโจว,เซินเจิ้น), Singapore Airlines (สิงคโปร์), Swiss (ซูริก), Turkish Airlines (โฮจิมินห์, อิสตันบูล) ถ้าจะไปจุดหมายต่างๆ เหล่านี้จากกรุงเทพฯ ลองดูสายการบินเหล่านี้เป็นตัวเลือกครับ
  • เช็คให้แน่ใจ ว่าเที่ยวบินที่เราจะบิน สะสมไมล์ได้ 100%
  • อย่าลืมแจ้งหมายเลขสมาชิก Royal Orchid Plus ทุกครั้งที่จองตั๋ว หรือเช็คอิน (ถ้าบินไปแล้วลืมแจ้ง ก็มาแจ้งย้อนหลังได้ไม่เกิน 180 วัน แต่เสียเวลาหน่อย)
  • เที่ยวบินในประเทศ ของการบินไทย และ ไทยสมายล์ สะสมไมล์ได้ทุกเที่ยวบิน และได้อย่างต่ำเที่ยวละ 500 ไมล์เลยด้วย (ไม่น้อยเลยนะครับ)
  • บัตรเครดิตบางค่าย สามารถช่วยให้ได้บัตรทองเร็วขึ้นได้ แต่ต้องทำตามเงื่อนไขที่ระบุ และบัตรบางใบมีค่าธรรมเนียมรายปีค่อนข้างสูง อย่าลืมพิจารณาสิทธิประโยชน์อื่นๆ ประกอบไปด้วย
  • รายการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต ที่โฆษณาว่าเอาแต้มมาแลกไมล์การบินไทยได้ พวกนั้นไม่ใช่ไมล์เอกสิทธิ์ จึงไม่เอามาพิจารณาสถานะบัตร Royal Orchid Plus Gold ครับ เป็นคนละส่วนกัน แต่สามารถใช้ในการแลกตั๋วเครื่องบินได้ตามปกติ

       หลังจากบินได้ครบ 50,000 ไมล์ภายใน 12 เดือน หรือ 80,000 ไมล์ภายใน 24 เดือนแล้ว รอประมาณ 3 สัปดาห์ บัตร Royal Orchid Plus Gold พร้อมแท็กห้อยกระเป๋าก็จะถูกส่งมาทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ตอนสมัครสมาชิกครับ บัตรมีอายุ 2 ปี

       ส่วนบัตร Royal Orchid Plus Platinum ไม่มีเทคนิค ไม่มีทางลัด ต้องบิน Royal Silk กับ Royal First ให้ได้ปีละ 80,000 ไมล์ ติดกัน 2 ปี



เที่ยวญี่ปุ่นไปกับเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น